Monday, September 15, 2025

เกาหลีใต้จะสืบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนแรงงานที่ถูกควบคุมตัวในสหรัฐฯ

รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าจะสืบสวนอย่างละเอียดว่าแรงงานที่ถูกควบคุมตัวระหว่างการบุกตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ที่โรงงานในรัฐจอร์เจีย มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นหรือไม่ หลังจากที่แรงงานกว่า 300 คนได้เดินทางกลับถึงมาตุภูมิอย่างทุลักทุเล

เหตุการณ์นี้ได้สร้างความประหลาดใจและไม่พอใจให้กับเกาหลีใต้ ซึ่งถือเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ โดยทางเกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้แรงงานได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับประเทศได้โดยสมัครใจ โดยไม่กระทบต่อการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ในอนาคต โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ทั้งกระทรวงการต่างประเทศและบริษัทที่เกี่ยวข้องกำลังตรวจสอบว่ามีมาตรการใดที่ยังบกพร่องอยู่หรือไม่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ก็ได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้กล่าวผ่านโซเชียลมีเดียว่า เขาไม่ต้องการ “ทำให้การลงทุนจากต่างประเทศต้องหวาดกลัว” และกล่าวว่าสหรัฐฯ ยินดีต้อนรับแรงงานที่มีความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามาเพื่อฝึกอบรมแรงงานชาวอเมริกัน พร้อมทั้งยังคงผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาวีซ่าเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับแรงงานที่เดินทางมาทำงานในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในอนาคต

ที่มา: NBC News, 15/9/2025 

มาเลเซียผ่านร่างกฎหมายแรงงานแพลตฟอร์มแล้ว สร้างความมั่นคงให้แรงงานกว่า 200,000 คน

 

วุฒิสภามาเลเซียได้ให้ความเห็นชอบต่อร่างกฎหมายว่าด้วยแรงงานแพลตฟอร์ม (Gig Workers’ Bill) ที่รอคอยกันมานาน โดยนับเป็นก้าวสำคัญในการคุ้มครองและยกระดับสิทธิความเป็นอยู่ของแรงงานในภาคส่วนเศรษฐกิจดิจิทัล ร่างกฎหมายนี้จัดทำโดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม (SEGiM) เพื่อกำหนดกรอบการทำงานและแก้ไขปัญหาที่แรงงานกลุ่มนี้กำลังเผชิญอยู่

ผู้นำสหภาพแรงงานของมาเลเซียได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในการผ่านร่างกฎหมายนี้ และยกย่องให้เป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของกระทรวงทรัพยากรมนุษย์ ที่ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิทธิและสวัสดิการของแรงงานแพลตฟอร์ม ซึ่งมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

การผ่านร่างกฎหมายนี้ทำให้มาเลเซียเป็นประเทศที่สองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากสิงคโปร์ ที่มีกฎหมายที่ชัดเจนในการรวมแรงงานแพลตฟอร์มเข้ามาอยู่ในกรอบกฎหมายแรงงานอย่างเป็นรูปธรรม

ที่มา: UNI Global Union, 15/9/2025 

การสอดส่องพนักงานในที่ทำงานเพิ่มขึ้นในออสเตรเลีย แรงงานขาดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

รายงานใหม่จากนักวิชาการด้านกฎหมายเปิดเผยว่า บริษัทต่าง ๆ ในออสเตรเลียกำลังเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีการตรวจสอบตำแหน่งที่อยู่ อีเมล และการพิมพ์แป้นพิมพ์ แต่กลับไม่มีกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่เพียงพอ

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แม้จะมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล แต่ก็มีข้อยกเว้นที่สำคัญสำหรับข้อมูลของพนักงาน ทำให้ข้อมูลที่ถูกรวบรวมในระหว่างการทำงานไม่ได้รับการคุ้มครองเท่าที่ควร และสามารถนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือถูกนำไปขายได้โดยที่พนักงานไม่สามารถเรียกร้องสิทธิได้

ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริงสะท้อนให้เห็นถึงปัญหานี้ เช่น พนักงานบริษัทประกันภัยคนหนึ่งถูกไล่ออกหลังจากบริษัทตรวจสอบการพิมพ์แป้นพิมพ์และพบว่ามีการทำงานต่ำกว่าเกณฑ์ นอกจากนี้ยังมีการนำอุปกรณ์ติดตามรถยนต์ไปใช้เพื่อสอดส่องพฤติกรรมของพนักงานภาคสนาม และการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของพนักงานที่อยู่นอกเวลางาน

นอกจากนี้ การมาของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังทำให้การสอดส่องมีความรุนแรงขึ้นไปอีก โดยมีการนำ AI มาใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่เป็นธรรมและเลือกปฏิบัติได้ สหภาพแรงงานได้เรียกร้องให้มีการเจรจากับพนักงานอย่างแท้จริงก่อนนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ เพื่อสร้างความโปร่งใสและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของคนทำงาน

ที่มา: The Guardian, 14/9/2025 

Saturday, September 13, 2025

องค์กรแรงงานลอสแอนเจลิสเรียกร้องสอดส่องการจับกุมพนักงานล้างรถโดยเจ้าหน้าที่ ICE

 

กลุ่มครอบครัวของพนักงานล้างรถที่ถูกจับกุมโดยเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ร่วมกับศูนย์แรงงานล้างรถ CLEAN และกลุ่มผู้นำในชุมชน ได้ประกาศเพิ่มความพยายามในการปกป้องสิทธิของแรงงานกลุ่มนี้ โดยเรียกร้องให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวังและบันทึกภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน

การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการบุกจับกุมพนักงานล้างรถในหลายพื้นที่ของแคลิฟอร์เนียใต้ ซึ่งมีรายงานว่ามีพนักงานถูกจับกุมไปแล้วกว่า 250 คน จากการบุกค้นมากกว่า 82 ครั้ง ทำให้เกิดความกังวลว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชีวิตของแรงงานและครอบครัว

องค์กรแรงงานกล่าวว่า การเฝ้าระวังของชุมชนจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น และการบันทึกภาพการปฏิบัติงานจะช่วยเป็นหลักฐานในการปกป้องแรงงานและนำเจ้าหน้าที่ที่ละเมิดสิทธิมาดำเนินคดีได้ โดยทางศูนย์แรงงานฯ ได้มีการจัดอบรมและมอบรายการตรวจสอบเพื่อช่วยให้แรงงาน ลูกค้า และเจ้าของกิจการสามารถปกป้องตนเองได้อย่างปลอดภัย

ที่มา: Vanguard News, 13/9/2025 

Friday, September 12, 2025

พนักงานดูแลเด็กในแคนาดาประท้วงหยุดงาน เรียกร้องชั่วโมงทำงานที่แน่นอน

พนักงานดูแลเด็กในเมืองซิดนีย์ รัฐโนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดา ได้นัดหยุดงานประท้วงเพื่อเรียกร้องให้มีการรับประกันชั่วโมงทำงานที่ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยสหภาพแรงงานระบุว่า การทำงานที่ขาดความแน่นอนเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์นั้นส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเป็นอยู่ของพนักงานในระยะยาว ทั้งในเรื่องของรายได้ที่ลดลงและสวัสดิการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทางโรงเรียนซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของพนักงานเหล่านี้ กล่าวว่าได้เสนอข้อตกลงที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม เช่น การเพิ่มวันลาป่วยและวันลาพักร้อน แต่ไม่สามารถรับประกันชั่วโมงทำงาน 40 ชั่วโมงได้ เนื่องจากจะทำให้ศูนย์ดูแลเด็กขาดสภาพคล่องทางการเงิน อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงานโต้แย้งว่าศูนย์ดูแลเด็กแห่งอื่น ๆ ในพื้นที่เดียวกันต่างก็มีชั่วโมงทำงานที่แน่นอนสำหรับพนักงาน

การประท้วงครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากชุมชนและผู้ปกครอง ซึ่งได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนการดูแลบุตรหลานในระหว่างที่มีการประท้วงด้วย ผู้ปกครองบางส่วนได้รวมตัวกันจัดชุมนุมเพื่อแสดงการสนับสนุนการเรียกร้องของพนักงาน โดยเห็นว่าการเรียกร้องให้ได้รับชั่วโมงทำงานที่มั่นคงนั้นเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและสอดคล้องกับมาตรฐานของศูนย์ดูแลเด็กที่ได้รับการยอมรับ

ที่มา: CBC, 12/9/2025 


ประธานบริษัทเครื่องสำอางญี่ปุ่นลาออก จ่ายค่าชดเชยคดีพนักงานเสียชีวิตจากการล่วงละเมิด

ประธานบริษัทผลิตเครื่องสำอางในกรุงโตเกียวได้ลาออกและตกลงจ่ายค่าชดเชยให้กับครอบครัวของอดีตพนักงานหญิงคนหนึ่งที่เสียชีวิตจากการถูกล่วงละเมิดทางอำนาจ โดยจะจ่ายเงินชดเชยจำนวน 150 ล้านเยน (ประมาณ 36 ล้านบาท) ร่วมกับบริษัท

อดีตพนักงานหญิงคนนี้เสียชีวิตเมื่ออายุเพียง 25 ปี หลังจากที่ครอบครัวได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากทั้งประธานบริษัทและตัวบริษัท โดยศาลแขวงโตเกียวได้ตัดสินให้มีการชำระเงินค่าชดเชยและให้บริษัทดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก ทั้งสองฝ่ายยอมรับคำตัดสินดังกล่าว และคดีความได้สิ้นสุดลงแล้ว

ตามคำบอกเล่าของครอบครัวพนักงานหญิงคนนี้ เธอเริ่มทำงานกับบริษัทในเดือนเมษายน 2021 และในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน เธอถูกประธานบริษัทเรียกเข้าพบและตำหนิอย่างรุนแรง โดยประธานได้เรียกเธอว่า "หมาจรจัด" และยังคงล่วงละเมิดทางวาจาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคซึมเศร้าในเวลาต่อมา เธอพยายามฆ่าตัวตายในเดือนสิงหาคม 2022 และเสียชีวิตในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน

เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 สำนักงานมาตรฐานแรงงานได้ยอมรับว่าการเสียชีวิตของเธอมีสาเหตุมาจากการล่วงละเมิดทางอำนาจของประธานบริษัท และรับรองว่าเป็นการเสียชีวิตจากการทำงาน

ที่มา: The Asahi Shimbun, 12/9/2025 

Thursday, September 11, 2025

รัฐสภาสเปนปัดตกข้อเสนอปรับลดชั่วโมงทำงานจาก 40 ชั่วโมง เหลือ 37.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

รัฐสภาสเปนลงมติไม่เห็นชอบข้อเสนอของรัฐบาลที่จะลดชั่วโมงทำงานจาก 40 ชั่วโมง เหลือ 37.5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่งผลให้ร่างกฎหมายดังกล่าวต้องถูกส่งกลับไปให้รัฐบาลปรับแก้ก่อนนำกลับมาพิจารณาอีกครั้ง

ร่างกฎหมายนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมระหว่างพรรคสังคมนิยมและพันธมิตรฝ่ายซ้าย และได้รับการสนับสนุนจากสหภาพแรงงานเป็นอย่างดี แต่ในทางกลับกัน กลุ่มสมาคมธุรกิจได้แสดงจุดยืนคัดค้านมาโดยตลอด การถูกปัดตกในครั้งนี้ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญของรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งผลักดันร่างกฎหมายนี้มาโดยตลอดเพื่อต้องการลดชั่วโมงทำงานโดยไม่กระทบต่อค่าจ้างของแรงงาน

ที่มา: Fakti, 11/9/2025 

ทางการเกาหลีใต้ส่งเครื่องบินรับแรงงานที่ถูกสหรัฐฯ ควบคุมตัวกลับประเทศ

แรงงานชาวเกาหลีใต้ราว 300 คนที่ถูกควบคุมตัวระหว่างการบุกตรวจค้นโรงงานแบตเตอรี่รถยนต์ในรัฐจอร์เจียของสหรัฐฯ คาดว่าจะได้เดินทางกลับบ้านด้วยเครื่องบินเช่าเหมาลำในวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาท้องถิ่น การดำเนินการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองประเทศ โดยฝ่ายเกาหลีใต้เรียกร้องให้แรงงานเหล่านี้ได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศได้โดยสมัครใจ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้าสหรัฐฯ ในอนาคต

การบุกตรวจค้นครั้งนี้ซึ่งมุ่งเป้าไปที่แรงงานที่ไม่มีเอกสารทำงานอย่างถูกต้อง กำลังกลายเป็นประเด็นที่สร้างความตึงเครียดระหว่างการบังคับใช้กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ กับการลงทุนจากต่างประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อบริษัทต่างชาติที่ต้องพึ่งพาแรงงานที่มีทักษะเฉพาะทางจากประเทศแม่

ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศอยู่ระหว่างการเจรจาถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อหาวิธีการออกวีซ่าพิเศษที่จะช่วยให้แรงงานที่มีทักษะสามารถเดินทางเข้าสหรัฐฯ ได้อย่างราบรื่นขึ้นในอนาคต พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความสัมพันธ์ทางธุรกิจและทางเทคนิคระหว่างกัน

ที่มา: CBTNews, 11/9/2025 

แพทย์ในสหรัฐฯ รวมตัวเป็นสหภาพแรงงานมากขึ้น หวังยกระดับคุณภาพชีวิตและการทำงาน

แนวโน้มการรวมตัวเป็นสหภาพแรงงานของแพทย์ในสหรัฐฯ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดมีแพทย์ที่เป็นสมาชิกสหภาพฯ เพิ่มขึ้นจาก 5.7% ในปี 2014 เป็น 8% ในปี 2024 สวนทางกับอาชีพอื่น ๆ ที่มีสัดส่วนสมาชิกสหภาพฯ ลดลงอย่างต่อเนื่อง การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของระบบสาธารณสุข และความต้องการที่จะปรับปรุงสภาพการทำงานและค่าตอบแทน

หนึ่งในสาเหตุสำคัญคือการเปลี่ยนสถานะของแพทย์ จากผู้ประกอบการที่มีคลินิกส่วนตัวมาเป็นพนักงานในองค์กรขนาดใหญ่ ส่งผลให้แพทย์ไม่สามารถเจรจาต่อรองเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการได้ด้วยตนเอง การรวมกลุ่มจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มอำนาจต่อรอง นอกจากนี้แพทย์ยังเผชิญกับภาวะหมดไฟจากการทำงาน (Burnout) ในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากภาระงานธุรการที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลหลังมีการนำระบบบันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ ซึ่งทำให้แพทย์ต้องใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงกับงานเอกสารต่อการใช้เวลาหนึ่งชั่วโมงกับผู้ป่วย

แม้ว่าแพทย์ส่วนใหญ่จะมีรายได้สูง แต่ก็มีภาระหนี้สินจากการเรียนแพทย์ที่แพงและยาวนาน รวมถึงชั่วโมงการทำงานที่ยาวนานและไม่ได้รับค่าตอบแทนอย่างเหมาะสมจากการทำงานนอกเวลาตรวจคนไข้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขามองหาสวัสดิการและความมั่นคงในอาชีพ โดยมีข้อกังวลเรื่องการจ้างงานในอนาคตที่อาจถูกแทนที่ด้วยนักวิชาชีพด้านสุขภาพอื่น ๆ หรือแม้แต่ปัญญาประดิษฐ์

การประท้วงหยุดงานของแพทย์แม้จะเคยเกิดขึ้นน้อยมากในอดีต แต่ก็เริ่มมีให้เห็นมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เช่น การได้ค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น และการมีเจ้าหน้าที่สนับสนุนมากขึ้น ซึ่งช่วยลดภาระงานของแพทย์ได้ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงมีอยู่ เช่น การหาจุดสมดุลระหว่างการเรียกร้องสิทธิของแพทย์กับการดูแลรักษาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่องในสถานการณ์ที่อาจมีการหยุดงานประท้วง

ที่มา: The National Tribune, 11/9/2025 

Wednesday, September 10, 2025

พนักงานดูแลผู้ป่วยในสกอตแลนด์หยุดงานประท้วง เรียกร้องค่าจ้างที่เป็นธรรม

พนักงานดูแลผู้ป่วยหลายร้อยคนในสกอตแลนด์ซึ่งทำงานให้กับองค์กรการกุศลแห่งหนึ่ง ได้เริ่มหยุดงานประท้วงอีกครั้งเพื่อเรียกร้องค่าจ้างที่เหมาะสมกับค่าครองชีพที่สูงขึ้น การหยุดงานครั้งนี้เป็นการสานต่อการประท้วงที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ผ่านมา หลังการเจรจาข้อตกลงกับองค์กรล้มเหลว

สหภาพแรงงาน UNISON ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานกว่า 650 คน ระบุว่าพนักงานเหล่านี้ได้รับค่าจ้างที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ โดยทางสหภาพฯ ได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสกอตแลนด์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนหลักขององค์กรการกุศลแห่งนี้ว่าไม่ได้ลงทุนในบริการดูแลทางสังคมอย่างเพียงพอ

โฆษกขององค์กรการกุศลแสดงความผิดหวังต่อการตัดสินใจนัดหยุดงาน แต่กล่าวว่าจะยังคงทำงานร่วมกับสหภาพแรงงานเพื่อลดผลกระทบต่อผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด พร้อมระบุว่า การจะเพิ่มค่าจ้างให้สูงกว่าค่าครองชีพที่เป็นอยู่ได้นั้นขึ้นอยู่กับเงินสนับสนุนจากภายนอก ซึ่งทางองค์กรก็สนับสนุนให้มีการกำหนดค่าจ้างระดับชาติสำหรับพนักงานดูแลทางสังคมในภาคส่วนการกุศลให้เทียบเท่ากับพนักงานภาครัฐ

ด้านรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับบทบาทของพนักงานดูแลทางสังคม และได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมกว่า 125 ล้านปอนด์เพื่อเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำให้เป็น 12.60 ปอนด์ต่อชั่วโมง พร้อมทั้งกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันหาข้อตกลงที่ยุติธรรมและสามารถดำเนินการได้ต่อไป

ที่มา: Civil Society Media, 10/9/2025 


พนักงานมหาวิทยาลัยมินนิโซตาในสหรัฐฯ หยุดงานประท้วงเรียกร้องค่าจ้างและสวัสดิการ

พนักงานกว่า 1,400 คนของมหาวิทยาลัยมินนิโซตา ซึ่งรวมถึงผู้ดูแลอาคาร พนักงานฝ่ายซ่อมบำรุง และเจ้าหน้าที่บริการอาหาร ได้หยุดงานประท้วง หลังจากที่การเจรจาสัญญากับฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยไม่เป็นผล ผู้ประท้วงรวมตัวกันในหลายวิทยาเขต โดยระบุว่าพวกเขาได้รับค่าจ้างต่ำเกินไปและกำลังเผชิญกับภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น

การนัดหยุดงานครั้งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย เช่น โรงอาหารหลายแห่งที่ต้องจำกัดเวลาเปิดทำการและลดปริมาณอาหารลง รวมถึงงานซ่อมบำรุงที่ไม่จำเป็นต้องถูกเลื่อนออกไป

สหภาพแรงงานที่เกี่ยวข้องได้เจรจากับมหาวิทยาลัยมาตั้งแต่เดือนมีนาคม แต่สมาชิกส่วนใหญ่ลงมติไม่ยอมรับข้อเสนอสุดท้ายจากมหาวิทยาลัยที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่มาของการประท้วงครั้งนี้ ทางมหาวิทยาลัยได้ออกแถลงการณ์ว่า จะพยายามบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นและหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหภาพแรงงานได้ในเร็วๆ นี้

ผู้ประท้วงมองว่าพวกเขาคือกระดูกสันหลังของมหาวิทยาลัยและเชื่อว่าการประท้วงครั้งนี้จะทำให้มหาวิทยาลัยเห็นคุณค่าของพวกเขามากขึ้น โดยการนัดหยุดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการก่อตั้งสหภาพแรงงานในมหาวิทยาลัยแห่งนี้เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1970

ที่มา: Star Tribune, 10/9/2025 

การประท้วงของคนรุ่นใหม่ในเนปาล สะท้อนวิกฤตเศรษฐกิจและการขาดโอกาสในประเทศ

การลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเนปาลเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2025 ท่ามกลางการประท้วงที่นำโดยคนรุ่นใหม่ ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงปัญหารากฐานที่ลึกซึ้งกว่าแค่เรื่องการสั่งแบนโซเชียลมีเดีย ผู้ประท้วงออกมาแสดงพลังเนื่องจากความไม่พอใจต่อเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่สามารถสร้างงานและโอกาสที่มั่นคงให้กับคนรุ่นใหม่ได้

ชนวนเหตุเริ่มต้นจากการที่รัฐบาลสั่งแบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลักหลายแห่ง ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการหางาน ติดตามข่าวสาร และการใช้ชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ การกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการลงโทษโดยรวมและเป็นความพยายามที่จะควบคุมพื้นที่สาธารณะในสถานการณ์ที่คนหนุ่มสาวเผชิญกับอัตราการว่างงานที่สูงถึง 20.82% ในปี 2024

สาเหตุหลักของความไม่พอใจมาจากรูปแบบการพัฒนาของประเทศที่เน้นการส่งออกแรงงานไปยังต่างประเทศเพื่อรับค่าตอบแทน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 33% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2024 ตัวเลขที่น่าตกใจจากรายงานของกระทรวงแรงงานแสดงให้เห็นว่า มีแรงงานชาวเนปาลเกือบ 840,000 คนเดินทางไปทำงานต่างประเทศในช่วงปีงบประมาณ 2024/2025 ซึ่งตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการสร้างงานที่มีศักดิ์ศรีภายในประเทศ และเป็นประเด็นที่คนรุ่นใหม่ใช้เป็นเครื่องตัดสินใจทางการเมือง

การประท้วงที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดความสูญเสีย ทั้งผู้เสียชีวิต 19 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 300 คน จนในที่สุดรัฐบาลก็ต้องยอมยกเลิกคำสั่งแบนโซเชียลมีเดียและนายกรัฐมนตรีก็ลาออกตามมา การประท้วงครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การเรียกร้องสิทธิทางดิจิทัลเท่านั้น แต่เป็นการส่งสารที่ชัดเจนว่า หากรัฐบาลยังคงล้มเหลวในการสร้างโอกาสที่มั่นคงให้กับคนหนุ่มสาวแล้ว ถนนจะเป็นพื้นที่แห่งเดียวที่พวกเขาสามารถแสดงออกถึงศักดิ์ศรีและความไม่พอใจได้

ที่มา: Peoples Dispatch, 9/10/2025 

Tuesday, September 9, 2025

การจำกัดแรงงานต่างชาติอาจทำให้ธุรกิจฮังการีต้องปิดตัว

การที่รัฐบาลฮังการีออกมาตรการที่เข้มงวดและมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นในการจ้างแรงงานต่างชาติ กำลังส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในประเทศอย่างมาก ผู้ประกอบการจำนวนมากออกมาเตือนว่า หากไม่สามารถหาแรงงานได้เพียงพอ อาจจำเป็นต้องปิดกิจการ ซึ่งจะส่งผลให้ชาวฮังการีเองต้องตกงานด้วย

มาตรการใหม่นี้ได้จำกัดโควตาแรงงานต่างชาติไว้ที่ 35,000 คนในปี 2025 โดยแรงงานจะต้องมาจากประเทศที่มีข้อตกลงส่งตัวกลับหรือมีหน่วยงานที่รับผิดชอบการส่งตัวกลับเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันมีเพียงแรงงานจากประเทศฟิลิปปินส์เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาได้อย่างเป็นรูปธรรม แม้ว่าแรงงานจากจอร์เจียและอาร์เมเนียจะอยู่ในข้อยกเว้นก็ตาม

นอกจากนี้ ยังมีข้อบังคับให้ผู้ประกอบการต้องจ้างแรงงานชาวฟิลิปปินส์เป็นระยะเวลาอย่างน้อยสองปี ซึ่งเป็นอุปสรรคสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางที่ต้องการแรงงานชั่วคราวหรือตามฤดูกาลเท่านั้น หากไม่สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดได้ ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายค่าจ้างที่เหลือเป็นค่าปรับ

ผู้ประกอบการในฮังการีหลายรายระบุว่า พวกเขาไม่สามารถหาแรงงานท้องถิ่นที่มีทักษะและความน่าเชื่อถือมาทดแทนตำแหน่งงานที่ว่างได้ เนื่องจากแรงงานในประเทศส่วนใหญ่เดินทางไปทำงานในยุโรปตะวันตก และไม่สามารถแข่งขันกับบริษัทขนาดใหญ่ที่สามารถดึงดูดแรงงานได้ดีกว่า ซึ่งหากธุรกิจขนาดเล็กต้องล้มลง ก็จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและทำให้หลายครอบครัวต้องเผชิญกับความยากลำบากทางการเงินในที่สุด

ที่มา: DailyNewsHungary, 9/9/2025 


 

พนักงานสำนักงานกำกับดูแลการเงินเกาหลีใต้ไม่พอใจแผนปฏิรูปรัฐบาล

พนักงานและสหภาพแรงงานของสำนักงานกำกับดูแลการเงิน (FSS) ในเกาหลีใต้ แสดงความไม่พอใจต่อแผนของรัฐบาลที่เตรียมจัดตั้งหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคทางการเงิน (FCPA) ขึ้นเป็นองค์กรอิสระ โดยชี้ว่าการแยกหน้าที่ดังกล่าวจะส่งผลเสียต่อการทำงาน และมองว่าแผนนี้เป็น "การหลอกลวงด้านการจ้างงาน" โดยเฉพาะสำหรับพนักงานรุ่นใหม่

สหภาพแรงงาน FSS ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านแผนปฏิรูป โดยมองว่าเป็นการถอยหลังเข้าคลอง เพราะการกำกับดูแลความมั่นคงของบริษัทการเงินกับการคุ้มครองผู้บริโภคจะต้องทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ การแยกหน่วยงานออกจากกันจะนำไปสู่ความขัดแย้งและงานที่ซ้ำซ้อน นอกจากนี้ การกำหนดให้ FSS และ FCPA เป็นสถาบันของรัฐยังถูกมองว่าเป็นการบั่นทอนความเป็นอิสระในการกำกับดูแลทางการเงินอีกด้วย

พนักงานบางส่วนระบุว่า หาก FCPA มีบทบาทจำกัดเพียงแค่การรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า ก็ไม่ต่างอะไรจาก "ศูนย์บริการทางโทรศัพท์" ซึ่งทำให้พนักงานรุ่นใหม่รู้สึกว่าถูกหลอกลวง เพราะพวกเขาเลือกที่จะมาทำงานในสายงานกำกับดูแลที่มีความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่การจัดการเรื่องร้องเรียน

ผู้ว่าการ FSS ได้ส่งอีเมลถึงพนักงานทุกคนเพื่อแสดงความเสียใจกับผลลัพธ์ที่ออกมา พร้อมให้คำมั่นว่าจะพยายามหาแนวทางแก้ไขผ่านการอภิปรายกับสภา และจะพยายามปรับปรุงสภาพการทำงานให้ดีขึ้น โดยให้มีการโยกย้ายบุคลากรระหว่างสองหน่วยงานเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม รองผู้ว่าการอาวุโสของ FSS ได้ยืนยันว่าการตัดสินใจของรัฐบาลถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว และเรียกร้องให้พนักงานยอมรับแผนการปฏิรูปในครั้งนี้

ที่มา: The Chosun Daily, 8/9/2025 

Monday, September 8, 2025

พนักงานรถไฟใต้ดินลอนดอนประกาศผละงานประท้วงนาน 1 สัปดาห์ เรียกร้องส่วนลดค่าเดินทาง 75%

พนักงานรถไฟใต้ดินของกรุงลอนดอนที่ผละงานประท้วงตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2025 ได้เรียกร้องขอส่วนลดค่าเดินทางโดยรถไฟ 75% สำหรับการเดินทางส่วนตัวทุกประเภท นอกเหนือจากสวัสดิการเดินทางฟรีในระบบขนส่งลอนดอนที่ได้รับอยู่แล้ว

สมาชิกของสหภาพแรงงานรถไฟ การเดินเรือ และการขนส่ง (RMT) ได้ลงคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นให้มีการประท้วง หลังจากที่การเจรจาเรื่องค่าจ้างและชั่วโมงการทำงานยืดเยื้อมานานถึง 9 เดือน แม้จะได้รับข้อเสนอให้ขึ้นค่าจ้าง 3.4% แล้วก็ตาม

นอกเหนือจากสวัสดิการเดินทางฟรีในระบบขนส่งสาธารณะของกรุงลอนดอนที่พนักงานและครอบครัวได้รับอยู่แล้ว ผู้ประท้วงยังต้องการให้รัฐบาลอุดหนุนส่วนลดค่าเดินทาง 75% สำหรับการเดินทางส่วนตัวโดยรถไฟสายหลักนอกเมืองลอนดอนด้วย

การประท้วงของพนักงานขับรถ พนักงานควบคุมสัญญาณ และพนักงานซ่อมบำรุงในครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้การให้บริการรถไฟใต้ดินหยุดชะงักตลอดทั้งสัปดาห์ โดยอาจมีรถวิ่งน้อยมากหรือไม่มีเลยระหว่างวันจันทร์ถึงวันพฤหัสบดี

ที่มา: LBC, 8/9/2025 

สหภาพแรงงานกรีซประท้วงกฎหมายแรงงานใหม่ที่อาจทำให้ต้องทำงานวันละ 13 ชั่วโมง

สหภาพแรงงานในประเทศกรีซนำโดยแนวร่วมต่อสู้ของแรงงาน (PAME) เตรียมจัดชุมนุมใหญ่ในวันนี้ที่จัตุรัส Syntagma Square ในกรุงเอเธนส์ เพื่อคัดค้านร่างกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ที่พวกเขาระบุว่าเป็น "ความโหดร้ายต่อคนทำงาน" เนื่องจากจะอนุญาตให้ขยายชั่วโมงทำงานได้ถึง 13 ชั่วโมงต่อวัน

การประท้วงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเคลื่อนไหวที่กว้างขวางมากขึ้น หลังจากที่มีการรวมตัวกันครั้งใหญ่ในช่วงงานแสดงสินค้านานาชาติที่เมือง Thessaloniki เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สหภาพแรงงานเรียกร้องให้กระทรวงแรงงานถอนร่างกฎหมายนี้ออกทันที โดยอ้างว่ากฎหมายนี้จะให้ความสำคัญกับผลกำไรของบริษัทมากกว่าสิทธิของแรงงาน

PAME ประณามมาตรการเหล่านี้ว่าเป็นการทำลายการคุ้มครองแรงงานและเพิ่มการขูดรีด พร้อมทั้งยืนยันว่าการแก้ไขกฎหมายนี้จะทำลายการเจรจาต่อรองร่วมกันของสหภาพแรงงาน โดยมุ่งเน้นที่ข้อตกลงส่วนบุคคลกับนายจ้างแทน

การประท้วงในวันที่ 8 กันยายน 2025 เป็นส่วนหนึ่งของการรวมตัวกันทั่วประเทศ และ PAME กำลังเตรียมการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ทั่วประเทศในช่วงปลายเดือนกันยายนเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล ข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานรวมถึงการกำหนดวันทำงานเจ็ดชั่วโมงต่อวัน สัปดาห์ละห้าวัน และจำกัดชั่วโมงทำงานรายสัปดาห์ที่ 35 ชั่วโมง พร้อมกับการเพิ่มค่าจ้าง

สหภาพแรงงานเรียกร้องให้คนทำงานทุกคนเข้าร่วมการชุมนุมและการนัดหยุดงาน เพื่อส่งข้อความที่ชัดเจนว่า “ถอนกฎหมายต่อต้านแรงงานที่เลวร้ายนี้ออกไปเดี๋ยวนี้! ขอการทำงานที่มั่นคงและมีสิทธิสำหรับทุกคน!”

ที่มา: Greek City Times, 8/9/2025 

Sunday, September 7, 2025

เกาหลีใต้เจรจาสหรัฐฯ สำเร็จ เตรียมส่งตัวแรงงานที่ถูกควบคุมตัวกลับประเทศ


รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศว่าได้เสร็จสิ้นการเจรจากับสหรัฐอเมริกาเพื่อขอปล่อยตัวแรงงานชาวเกาหลีที่ถูกควบคุมตัวในรัฐจอร์เจียแล้ว หลังจากที่สำนักงานสืบสวนด้านความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ได้บุกเข้าตรวจค้นโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ของบริษัท Hyundai Motor และจับกุมแรงงานจำนวนหลายร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้ระบุว่า หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนด้านธุรการ จะมีการส่งเครื่องบินไปรับตัวชาวเกาหลีที่ถูกควบคุมตัวกลับประเทศทันที พร้อมกันนี้ยังกล่าวว่า รัฐบาลจะหาแนวทางปรับปรุงระบบการออกวีซ่าสำหรับแรงงานที่เดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญที่ทั้งสองประเทศเพิ่งบรรลุข้อตกลงทางการค้าครั้งใหญ่ ซึ่งรวมถึงการจัดตั้งกองทุนมูลค่า 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยบริษัทเกาหลีเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ และยังเป็นช่วงที่สื่อรายงานว่าประธานาธิบดีของสหรัฐฯ อาจจะเดินทางเยือนเกาหลีใต้ในเดือนตุลาคม 2025 ด้วย

ที่มา: CBS, 7/9/2025 

พบผู้หญิงอัลเบเนียเกือบ 1 ใน 3 ไม่ได้รับค่าตอบแทนจากการทำงาน

สถาบันสถิติแห่งชาติของอัลเบเนียเปิดเผยว่า ในปี 2024 จำนวนประชากรวัยทำงานเพิ่มขึ้นเกือบ 22,000 คน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แต่ในบรรดาแรงงานที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นี้ 40% เป็นแรงงานในธุรกิจครอบครัวที่ไม่ได้รับค่าจ้าง

จากการสำรวจพบว่า 24% ของแรงงานทั้งหมด ในประเทศอยู่ในกลุ่มนี้ และเมื่อพิจารณาเฉพาะผู้หญิงพบว่า เกือบ 1 ใน 3 ของแรงงานหญิงทั้งหมด (32.2%) ไม่ได้รับค่าตอบแทน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าแรงงานชายในประเภทเดียวกันถึง 1.5 เท่า นอกจากนี้ ข้อมูลยังชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากภาวะว่างงานและเป็นประชากรที่อยู่นอกกำลังแรงงานมากที่สุด

ประเทศอัลเบเนียยังคงมีสัดส่วนประชากรที่ทำงานในภาคเกษตรกรรมสูงที่สุดในยุโรป โดยอยู่ที่ 37% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของยุโรปที่ 4% อย่างมาก ซึ่งเป็นผลจากคำจำกัดความของ "ผู้มีงานทำ" ที่รวมเกษตรกรเข้าไปด้วย ทำให้บางพื้นที่ที่มีการเกษตรเป็นหลักดูเหมือนจะมีอัตราการจ้างงานสูงและอัตราว่างงานต่ำกว่าความเป็นจริง

ที่มา: Gazeta Panorama Online, 6/9/2025 

Saturday, September 6, 2025

ทางการสหรัฐฯ บุกจับแรงงานเกาหลีใต้กว่า 400 คน ในโรงงานแบตเตอรี่รถยนต์ของ Hyundai Motor

การก่อสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์แห่งใหม่ของบริษัท Hyundai Motor ในรัฐจอร์เจียต้องหยุดชะงักลง หลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ บุกเข้าจับกุมแรงงานหลายร้อยคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ โดยนับเป็นการปฏิบัติการตรวจค้นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

เจ้าหน้าที่ระบุว่า แรงงานที่ถูกจับกุมราว 475 คนไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือพำนักในประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และการปฏิบัติการครั้งนี้ยังสร้างความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นพันธมิตรและนักลงทุนรายสำคัญ

บริษัท Hyundai Motor ได้ออกแถลงการณ์ว่า ผู้ที่ถูกจับกุมไม่ใช่พนักงานโดยตรงของบริษัท แต่เป็นแรงงานของบริษัทผู้รับเหมา โดยบริษัทจะดำเนินการสอบสวนเพื่อความมั่นใจว่าผู้รับเหมาทั้งหมดปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทไม่มีความอดทนต่อผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของเกาหลีใต้ได้แสดงความกังวลและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทที่ลงทุนในสหรัฐฯ และผลประโยชน์ของพลเมืองของพวกเขาไม่ควรถูกละเมิดโดยไม่มีเหตุอันสมควรระหว่างการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ

ที่มา: MSN, 6/9/2025 

พนักงานขับรถโดยสารในเมืองแมนเชสเตอร์หยุดงานประท้วง


ระบบขนส่งสาธารณะในเกรเทอร์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ต้องเผชิญกับการหยุดชะงักครั้งใหญ่ เมื่อพนักงานขับรถโดยสารกว่า 2,000 คนจากสามบริษัท ได้แก่ Stagecoach, Metroline Manchester และ First Bus Rochdale ตัดสินใจนัดหยุดงานพร้อมกันเพื่อเรียกร้องค่าจ้างที่สูงขึ้น การประท้วงครั้งนี้จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 กันยายน 2025 และคาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการเดินทางของประชาชน

สหภาพแรงงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยว่า พนักงานจาก Stagecoach และ Metroline Manchester ได้ปฏิเสธข้อเสนอขึ้นค่าจ้างเพียง 3.5% ซึ่งต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ และไม่สามารถรับมือกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นได้ ส่วนพนักงานของ First Bus Rochdale ได้ปฏิเสธข้อเสนอขึ้นค่าจ้าง 6% เนื่องจากยังคงได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่าพนักงานในบริษัทอื่นมาเป็นเวลานาน

ตัวแทนของสหภาพฯ กล่าวว่า บริษัทที่เกี่ยวข้องต่างมีผลกำไรมหาศาล แต่กลับปฏิเสธที่จะจ่ายค่าจ้างที่เป็นธรรมให้กับพนักงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมทั้งยืนยันว่าสมาชิกทุกคนได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ และหวังว่าบริษัทจะกลับมาเจรจาด้วยข้อเสนอที่ดีขึ้นในเร็วๆ นี้

ที่มา: Unite the union, 5/9/2025 



เรื่องที่ได้รับความนิยม