สื่อ The Times Network ของอินเดียประเมินว่า ตลาดงานทั่วโลกกำลังเผชิญกับ "ภาวะถดถอยจากการปรับโครงสร้าง" โดยนายจ้างทั่วโลกได้ประกาศปลดพนักงานไปแล้วมากกว่า 1.17 ล้านตำแหน่ง ภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2025 ซึ่งเป็นยอดรวมสูงสุดนับตั้งแต่การปลดพนักงานในช่วงการระบาดใหญ่ของปี 2020 ที่มีจำนวน 2.2 ล้านคน ตัวเลขการปลดพนักงานในปีนี้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 54 เมื่อเทียบกับปี 2024 ซึ่งเป็นผลมาจากการลดต้นทุน การเติบโตที่ช้าลง และการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติมาใช้อย่างรวดเร็ว
ภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด คือ เทคโนโลยี (Tech), สตาร์ทอัพ, ธนาคาร, บริการทางการเงิน และประกันภัย (BFSI) โดยมีเหตุการณ์ปลดพนักงานที่บันทึกไว้ทั่วโลกกว่า 4,286 บริษัท ในขณะที่ เทคโนโลยี ถือเป็นศูนย์กลางของการปลดพนักงาน โดยมีการปลดพนักงานไปแล้ว 207,801 คน คิดเป็นค่าเฉลี่ย 613 คนต่อวัน ซึ่งตอกย้ำถึงความรุนแรงของการปรับโครงสร้างที่ได้รับแรงหนุนจาก AI เช่น โมเดลสร้างสรรค์ที่เข้ามาทำงานแทนในส่วนของการเขียนโค้ด การบริการลูกค้า และการวิเคราะห์ข้อมูล
ในทางภูมิศาสตร์ สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีการประกาศปลดพนักงานกว่า 1.1 ล้านตำแหน่ง ขณะที่ประเทศในตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดียก็ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงเช่นกัน องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization - ILO) ระบุว่าอัตราการว่างงานในประเทศที่พัฒนาแล้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากมาตรการของภาคเอกชน













